คู่มือภาษาไทย BrewZilla Gen 4 ภาษาไทย
*เอกสารฉบับนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ THAIBREWSHOP
Download คู่มือภาษาไทย BrewZilla Gen 4 แบบ PDF file สำหรับพิมพ์หรืออ่านบน Tablet
ข้อควรระวังก่อนการเริ่มใช้งาน BrewZilla Generation 4
- อ่านคู่มือโดยละเอียดก่อนการใช้งาน ถ้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นไหน ให้ลองดู video บน Youtube เพิ่มเติม ซึ่งกดดูได้ด้านล่างของบทความนี้ หรือติดต่อผู้ขาย
- ถ้า BrewZilla Gen 4 ชำรุด ให้ลองติดต่อผู้ขายก่อนเริ่มใช้งาน
- ไม่เปิดปั๊มหรือเปิดเครื่องให้ทำงานขณะยังไม่ติดตั้ง Recirculation Arm ถ้าไม่ติดตั้งให้เรียบร้อยก่อน มีความเสี่ยงที่จะโดนน้ำ wort ที่ร้อนกระจายออกมาจากท่อ
- ไม่เปิดปั๊มตอนที่แห้งเป็นเวลานาน จะทำให้ปั๊มเสียหายได้
- ไม่ยก BrewZilla Gen 4 ในขณะที่มีของเหลวอยู่เต็ม เราแนะนำให้ใช้สายยางซิลิโคนเพื่อเติมน้ำ ใช้ Ball valve สำหรับถ่าย wort การยกเครื่องที่หนักขณะร้อนๆ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บได้
- หากต้องการถอด Recirculation Arm ไม่ว่าในขั้นตอนไหนก็ตาม ให้ปิด Ball valve ก่อน *ดูการติดตั้ง Recirculation Arm ได้ที่หัวข้อที่ 9
- ไม่ต้มขณะที่ไม่มีของเหลว ไม่เปิด mode การต้มหรือสั่งเริ่มการทำงานจาก RAPT Portal ถ้าของเหลวมีปริมาตรน้อยกว่า 4 ลิตร (เป็นขั้นต่ำของระบบ)
- ไม่ต่อน้ำตรงเข้าปั๊มหรือท่อน้ำวน เพราะอาจทำให้สายยางซิลิโคนด้านล่างตัวเครื่องฉีกขาด
ใช้เฉพาะสารล้างทำความสะอาดที่ทาง KegLand แนะนำเท่านั้น สารเคมีที่ไม่ได้รับการทดสอบการใช้งานกับ BrewZilla อาจจะสร้างความเสียหายกับเครื่องและทำให้หมดการรับประกัน
สารเคมีที่ KegLand แนะนำ StellaClean PBW และ Five Star PBW สำหรับล้างคราบ
StellaSan และ Five Star – Star San No-rinse Sanitizer สำหรับล้างเป็นน้ำสุดท้าย
*Parts Checklist
- ตัวเครื่อง BrewZilla Gen 4 พร้อมปั๊ม
- Ball valve
- สายไฟแบบถอดได้
- ฝาแก้วที่มีรูสำหรับระบบน้ำวน
- ที่จับฝาทำจาก Stainless Steel 2 ชิ้น
- Immersion Chiller
- Male Camlock Recirculation Arm Extension
- แหวนรอง camlock ทำจากซิลิโคนสำหรับ female camlock
- สายยางซิลิโคนสำหรับ Recirculation Arm
- BrewZilla Gen 4 Boiler Perforated False Bottom
- Eye bolt assembly สำหรับ False bottom – น็อต 1 ชิ้น และแหวนรอง 1 ชิ้น
- Malt Pipe Assembly
- Malt Pipe Body
- Malt Pipe Handle
- Malt Pipe reinforced bottom screen (แบบไม่มีรู)
- Malt Pipe reinforced top screen (แบบไม่มีรู)
- BrewZilla Gen 4 RAPT Wifi Controller
- 8-pin power cable สำหรับต่อ BrewZilla Gen 4 RAPT Wifi Controller
BrewZilla Generation 4 Electric All In One Brewing System
BrewZilla Generation 4 เป็น All In One Brewing System สำหรับการทำ All Grain เหมาะทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการอัพเกรดระบบการทำเบียร์ให้สามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างสมบูรณ์ผ่านระบบ Wifi
BrewZilla Gen 4 สามารถใช้งานได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่อระบบ Wifi ผ่าน Controller จอสีที่มากับเครื่อง (ถอดได้) ซึ่งมีความสามาถหลากหลาย เช่น ทำ Step mashing, เปิดปิดระบบปั๊มแบบ Manual ผ่านจอ controller อย่างไรก็ตาม การเชื่อมต่อ Wifi และลงทะเบียนเครื่อง BrewZilla Gen 4 บน RAPT Portal จะทำให้เราใช้งาน BrewZilla Gen 4 ได้อย่างสมบูรณ์ อย่างที่ระบบถูกออกแบบมา
RAPT Portal จะช่วยให้เราติดตาม บันทึก กระบวนการต้มของเราได้แบบ online ทุกขั้นตอน และควบคุมได้จากระยะไกลผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระบบ Wifi
RAPT Portal จะช่วยให้เราควบคุมกระบวนการต้มได้อย่างสมบูรณ์จากระยะไกล ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น เช่นการตั้งค่าเตรียมน้ำร้อนไว้รอ แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาการใส่ฮอป ลืมเรื่องการจับเวลา หรือการจดบันทึกลงกระดาษไปได้เลย ทุกขั้นตอนถูกควบคุมและบันทึกผ่าน Portal
การลงทะเบียน BrewZilla Gen 4 บน RAPT Portal นั้นทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน ดูขั้นตอนได้จากหัวข้อถัดไป แต่ถ้าเราต้องการจะใช้เครื่อง BrewZilla แบบ manual ก็สามารถข้ามขั้นตอนการลงทะเบียนไปได้เลย
1.ขั้นตอนการลงทะเบียน BrewZilla Gen 4 บน RAPT Portal
การใช้งาน BrewZilla RAPT Controller ผ่าน Wifi นั้น เราต้องสร้าง account บน RAPT Portal ก่อน ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถ download สูตรการต้มจาก RAPT Portal ลงมายัง BrewZilla RAPT Controller ได้ และสามารถควบคุม BrewZilla ผ่าน RAPT Portal ด้วยอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Wifi
1. สมัคร RAPT Account
- ลงทะเบียนสมัครที่ https://app.rapt.io/
- เมื่อลงทะเบียนเสร็จให้ log in เข้าไปใน RAPT Portal
2.เชื่อมต่อ BrewZilla กับเครือข่าย Wifi ของเรา
- เสียบปลั๊ก BrewZilla Gen 4 ของเรา โดยใช้สายไฟที่มาในกล่อง
- เสียบสาย BrewZilla RAPT Controller เข้ากับตัวเครื่อง ด้วยสาย 8-pin ที่มีมาในกล่อง
- ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือ Tablet ของเราค้นหาเครือข่าย Wifi จาก KegLand RAPT Wifi Access Point โดยใช้ Wifi name และรหัสผ่าน (password) ที่โชว์บนจอ BrewZilla RAPT Controller
- โทรศัพท์มือถือหรือ Tablet ของเราจะขึ้นเตือนให้เข้าสู่ระบบเครือข่ายของ BrewZilla เมื่อทำการเชื่อมต่อ Wifi network ให้กดเลือก RAPT Wifi Network เพื่อเปิด RAPT Captive Portal
- เลือกเครือข่าย Wifi ของเรา ใส่รหัสผ่าน แล้วกด Join เพื่อเชื่อมต่อ BrewZilla เข้ากับเครือข่าย Wifi ของเรา
ถ้าทำถูกต้องตามขั้นตอน BrewZilla จะเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wifi ของเราเรียบร้อย สัญลักษณ์ Wifi จะปรากฎขึ้นที่มุมซ้ายบนของจอ BrewZilla RAPT Controller
3. ลงทะเบียน BrewZilla บนบัญชีของเราบน RAPT Cloud
- เมื่อ BrewZilla Controller ของเราเชื่อมต่อกับ Wifi เรียบร้อยแล้ว เข้าไปยังหน้า Settings ด้วยการกด Select บนจอ Controller แล้วเลือก Register Device จะปรากฎ MAC Address กับ Validation Code ขึ้นมาบนจอ Controller จดบันทึกค่าทั้งสองนี้ไว้ เพื่อใส่ข้อมูลบน RAPT Cloud เพื่อลงทะเบียน BrewZilla ของเรา
- Log in เข้า RAPT Portal (https://app.rapt.io/) ด้วยอุปกรณ์เช่น มือถือหรือ Tablet ที่ต่อเครือข่าย Wifi เดียวกับที่ BrewZilla controller (ที่จะลงทะเบียน) เชื่อมต่ออยู่
- บน RAPT Portal เลือก Add New Device จากนั้นเลือก BrewZilla จาก drop down menu จากนั้นคลิก Next (ต้องแน่ใจว่า BrewZilla เชื่อมต่อเครือข่าย Wifi เดียวกันกับอุปกรณ์ที่เข้า RAPT Portal อยู่)
- กรอก MAC Address และ Validation Code เมื่อมีช่องขึ้นมาให้กรอก จากนั้นกด Next
- เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการเชื่อมต่อ BrewZilla กับเครือข่าย Wifi และลงทะเบียน BrewZilla ของเราบน RAPT Portal ซึ่งหลังจากนี้เราจะสามารถควบคุม BrewZilla ของเราผ่าน RAPT Portal ได้แล้ว
2.การควบคุม BrewZilla Gen 4 จากระยะไกลผ่าน RAPT Portal
(Remote Operation via RAPT Portal)
เราสามารถควบคุม BrewZilla Gen 4 ผ่านการสร้าง Profile บน RAPT Portal
เมื่อเราลงทะเบียน BrewZilla ของเราบน RAPT Portal เรียบร้อยแล้ว เลือก Profiles และ Create New Profile จากนั้นใส่ข้อมูล เช่น strike, mash, mash-out, sparge, boil และอื่นๆ
เมื่อเราสร้าง Profile แล้ว เราจะสามารถเลือก Send Profile to Device จาก profile menu หรือ Start Profile Session บน Dashboard เพื่อส่ง profile ดังกล่าวไปยัง BrewZilla Controller เมื่อ profile ถูกส่งไปยัง Controller เรียบร้อย BrewZilla จะถูก Controller ควบคุมให้เริ่มการทำงานโดยอัตโนมัติ
เรายังต้องทำการเปิดปิดปั๊มบนจอ Controller ปรับระดับความร้อน และระดับการทำงานของปั๊มแบบ manual บนจอ controller
สำหรับการควบคุม BrewZilla Gen 4 แบบ manual ผ่าน RAPT Temperature Controller เช่นการเซตอุณหภูมิ ปรับค่าการทำความร้อน และระดับการทำงานของปั๊ม ให้ดูที่หมวด ควบคุมการทำงานของ BrewZilla Gen 4 ผ่าน RAPT Controller
3.การประกอบ BrewZilla RAPT Controller
BrewZilla RAPT Controller สามารถติดตั้งด้านข้างส่วนบนของตัวเครื่อง BrewZilla โดยสามารถปรับเอียงจอทำมุมได้ตามที่เรามองเห็นได้ถนัด ช่วยทำให้ทำงานง่ายขึ้น
การติดตั้ง Controller ก็ทำได้ง่ายๆ โดยการสไลด์ Controller ไปบนฐานสำหรับติด Controller ที่ติดตั้งบนตัวเครื่อง BrewZilla
การปรับองศาความเอียงของ BrewZilla RAPT Controller
เราสามารถปรับความเอียงของ Controller ที่ติดตั้งบนตัวเครื่อง BrewZilla ได้โดยการขันน็อต 2 ตัวด้านข้างของฐานสำหรับติดตั้ง Controller ให้หลวม และเมื่อปรับองศาของ Controller เสร็จแล้วก็ขันให้แน่นเหมือนเดิม
*Tip ถ้าเราต้องการองศากว้างสุดๆ เราอาจจะถอดน็อตตัวล่างออกมาก่อน แล้วดึงส่วนล่างออกมาให้พ้นน็อตตัวล่าง ไขน็อตตัวล่างกลับเข้าไปแล้ววางฐานส่วนล่างบนน็อตดังรูป
4.การติดตั้ง Perforated False Bottom (แผ่นกรอง)
BrewZilla Gen 4 มาพร้อมกับ Perforated False Bottom (แผ่นกรองที่มีรู) สำหรับกรองเศษต่างๆ ไม่ให้เข้าไปในระบบปั๊ม โดยมีประสิทธิภาพการกรองประมาณ 95% ของเศษต่างๆ ในของเหลว เช่น เศษฮอปอัดเม็ด (Hop Pellets) โดยเราจะใส่ grain ลงบนแผ่นกรองนี้ในขั้นตอนการ mashing แผ่นกรองนี้ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าปั๊มจะทำงานได้เป็นปกติเมื่อดูดของเหลวเข้าไป เพราะจะไม่มีเศษชิ้นใหญ่ๆ เข้าไปอุดตันในปั๊ม เราควรใส่แผ่นกรองทุกครั้งเมื่อมีการใช้งานปั๊ม
โดยแผ่นกรองนี้จะมีขายกขึ้นมาจากก้นหม้อที่เป็นทรงกรวยประมาณ 14 มิลลิเมตร เพื่อให้ของเหลวทุกหยดผ่านแผ่นกรองนี้ก่อนจะลงสู่ก้นหม้อและเข้าสู่ระบบปั๊ม
เพื่อให้สามารถยกแผ่นกรองได้ง่ายขึ้น ให้เราติดตั้งขอเกี่ยวสำหรับยกแผ่นกรอง โดยใส่แหวนรองและหมุนขอเกี่ยวเข้ากับน็อตตัวผู้ตรงกลางแผ่น
*Tip เพื่อให้ง่ายต่อการยกแผ่นกรองขึ้นจากเครื่อง BrewZilla ให้กดด้านข้างแผ่นกรองและดึงขอเกี่ยวตรงกลางแผ่นขึ้นพร้อมกัน (ดูได้จากรูป)
5.การประกอบหม้อ BrewZilla Gen 4 (Boiler Assembly)
การติดตั้งก๊อก (Tap Assembly and Installation)
BrewZilla Gen 4 จะส่งมาพร้อมกับชุดก๊อกที่ประกอบไว้ด้วยกันแล้ว แต่ไม่ได้ติดตั้งเข้ากับตัวเครื่อง BrewZilla เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่งเมื่อมีส่วนยื่นออกจากตัวเครื่อง การติดตั้งก๊อกเข้ากับตัวเครื่องให้เรา ไขเพื่อคลายน็อตหกเหลี่ยมออก สวมข้อต่อ barb พร้อมซีลยางเข้ากับข้อต่อด้านท้ายก๊อก ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแหวนรองซิลิโคนสวมบนข้อต่อก๊อกก่อนจะสวมก๊อกเข้ากับตัวเครื่อง
จากนั้นจับ BrewZilla คว่ำให้ด้านล่างขึ้นบน และใส่ก๊อกเข้าไปในรูที่ตัวเครื่องซึ่งเจาะไว้พร้อมอยู่แล้ว ขันน็อตหกเหลี่ยมเข้าไปเพื่อให้ขั้วต่อ barb อยู่กับที่และยึดก๊อกเข้ากับตัวเครื่อง จับก๊อกให้ตรงและขันน็อตหกเหลี่ยมต่อให้แน่น
เสียบสายยางซิลิโคนที่ต่อจากปั๊มเข้ากับขั้วต่อ barb ด้านท้ายก๊อก แล้วหนีบสายให้แน่นด้วย wire clamp
การต่อสายเข้าก๊อกเพื่อ Bypass ปั๊ม
การเชื่อมต่อท่อด้านล่างของเครื่อง BrewZilla Gen 4 สามารถปรับเปลี่ยนการเชื่อมต่อสายใหม่ให้ wort วิ่งเข้าก๊อกก่อนจะเข้าสู่ปั๊มได้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบาย wort ออกจากหม้อผ่านทางก๊อกได้ขณะปั๊มเกิดการอุดตันขึ้น เพื่อที่จะ bypass ปั๊ม เราจำเป็นที่จะต้องย้ายตำแหน่งปั๊มไปยังตำแหน่งดังรูปด้านล่าง
และเปลี่ยนการเชื่อมต่อสายปั๊มดังรูปด้านล่าง ซึ่งขั้วต่อรูปตัว T ซึ่งรับของเหลวจากหม้อจะแยกไปยังก๊อกก่อนจะเข้าช่อง inlet ของปั๊ม
เช็คดูให้แน่ใจว่าไม่มีการพับงอของสายยางซิลิโคนซึ่งอาจจะทำให้การไหลเวียนของเหลวติดขัด หากมีจุดที่ของเหลวไหลได้ช้า อาจจะทำให้เกิดแรงดันมากกว่าปกติซึ่งอาจส่งผลให้สายยางซิลิโคนฉีกขาดได้
6.การประกอบ Malt Pipe (Malt Pipe Assembly)
Malt Pipe คือตะกร้าสำหรับใส่มอลต์ในขั้นตอนการ Mashing (การสกัดน้ำตาล) และ Sparging (การล้างน้ำตาลออกจากมอลต์) โดยวางอยู่ในหม้อ BrewZilla
โดยมีส่วนประกอบหลักคือตะกร้ามอลต์ แผ่นกรองล่างและแผ่นกรองบน โดย BrewZilla รุ่น Gen 4 นี้ไม่มีท่อ Overflow แล้ว แผ่นกรองทั้งล่างบนจึงไม่มีรูสำหรับท่อ Overflow
วางแผ่นกรองกากมอลต์ลงในตะกร้ามอลต์ โดยแผ่นบนจะส่งทับหลังจากเราใส่มอลต์ในกระบวนการ Mashing แล้ว
แผ่นกรองมอลต์ด้านบนนั้นเราจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ หากเราต้องการคนมอลต์ไปด้วยระหว่างกระบวนการ Mashing เราไม่ต้องวางแผ่นบนก็ได้ แต่เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ Mashing เราควรวางแผ่นกรองมอลต์ด้านบนลงไปก่อนเริ่มการ Sparge เพื่อให้น้ำกระจายตัวได้ดี ไม่กระทบ Grain bed แรงไป อาจจะทำให้การล้างมอลต์ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
7.การติดตั้งที่ยกตะกร้ามอลต์ (Malt Pipe)
เราแนะนำให้ติดตั้งที่ยกตะกร้ามอลต์ก่อนที่จะใส่มอลต์และตะกร้ามอลต์ลงในหม้อ BrewZilla
การติดตั้งก็ทำได้ง่ายๆ ใส่ด้านนึงเข้าไปในรู แล้วดันเข้าไปให้พอที่จะสวมอีกด้านได้ แล้วเลื่อนกลับมาให้สมดุลกันทั้งสองด้าน เราก็จะสามารถยกตะกร้ามอลต์ได้ง่ายแล้ว
8.การควบคุมการทำงาน BrewZilla Gen 4 ด้วย RAPT Controller
เราสามารถควบคุมการทำงานของ BrewZilla Gen 4 ได้สองทาง คือผ่าน RAPT Controller และผ่าน RAPT Portal
ถ้าเราไม่ต้องการจะควบคุม BrewZilla ผ่าน RAPT Portal เราไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนก็ได้ เพราะสามารถใช้ RAPT Controller ที่เครื่องควบคุมอย่างเดียวได้อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถจะปิดการแจ้งเตือนให้ลงทะเบียนได้โดยการ disable Wifi ที่ RAPT Controllerโดยกด Select เพื่อเข้า Menu แล้วไปที่ Settings เลือกที่ Disable Wifi settings กดปุ่ม Select เพื่อทำการ Disable Wifi จากนั้น Controller จะ Restart
Enable/Disable Graph (การปิด-เปิด Graph)
ค่าเริ่มต้นของ RAPT Controller จะแสดงกราฟระหว่างอุณหภูมิกับเวลา (Temperature vs Time) ถ้าเราต้องการให้แสดงเป็นตัวเลข สามารถกดติ๊กออกตรงส่วน Show graph ใน Settings ได้
การปรับ Target Temperature (Adjusting Target Temperature)
กดปุ่ม Return จนแถบสีไปขึ้นที่ Target Temperature จากนั้นกดปุ่ม ลูกศรขึ้น-ลง เพื่อปรับ Target Temperature โดยหม้อต้มจะเริ่มทำงานเมื่อเรากดปุ่ม Play (ไม่ควรกดปุ่ม Play ถ้าไม่มีของเหลวในหม้อ)
การ เปิด/ปิด ปั๊ม (Turning the Pump On/Off)
กดปุ่ม Pump เพื่อเปิดหรือปิดปั๊ม จะมีตัวหนังสือ Pump ขึ้นเป็นสีฟ้าอ่อนที่หน้าจอเมื่อเราเปิดปั๊มใช้งาน และสีเทาแสดงว่าปั๊มปิดอยู่ ปั๊มจะทำงานต่อเมื่อเราเปิดเครื่อง BrewZilla ด้วยปุ่ม Play เท่านั้น (อย่ากดปุ่ม Play เมื่อไม่มีน้ำอยู่ในหม้อ ถ้าปั๊มเปิดทำงานระหว่างที่ไม่มีของเหลว จะทำให้เสียหายได้)
การปรับความเร็วในการหมุนของปั๊ม (Adjusting the Pump Cycle – Percentage)
เพื่อความทั่วถึงในการวนน้ำขณะ Mashing เราสามารถควบคุมกำลังของปั๊มเพื่อการหมุนเวียนของเหลวได้แทนการปรับการเปิดปิด Ball valve ตรง Recirculation arm
การปรับระดับแรงปั๊ม กดปุ่ม Return จนมี แถบสีที่ Pump % จากนั้นเราสามารถปรับได้ด้วยการกดลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อปรับแรงขึ้นหรือลดลงตามลำดับ
นอกจากวิธีการข้างต้น เรายังสามารถปรับความแรงของปั๊มได้ด้วยการกดปุ่ม Pump พร้อมกับกดลูกศรขึ้นหรือลง เพื่อปรับความแรงเพิ่มหรือลดตามลำดับ
การปรับระดับความร้อน (Adjusting the heating power)
กดปุ่ม Return จนแถบสีขึ้นที่ Heat % จากนั้นกดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อปรับระดับความร้อน
ถ้าเราปิดระบบควบคุม PID เราควรปรับระดับความร้อนอยู่ระหว่าง 30-40% ในช่วงกระบวนการ Mashing เพื่อป้องกันความร้อนเกินค่าที่กำหนด
9.การสกัดน้ำตาล (Mashing)
เมื่อเราประกอบหม้อ ติดตั้ง RAPT Controller และตะกร้าใส่มอลต์ (Malt pipe) เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมที่จะใส่ grains และเริ่มกระบวนการสกัดน้ำตาล (Mashing)
เช็คปริมาณและอุณหภูมิน้ำ Strike water ให้แน่ใจว่าถูกต้องตามสูตรพร้อมสำหรับการเริ่ม Mashing ซึ่งโดยทั่วไปอุณหภูมิของ Strike water จะสูงกว่าอุณหภูมิ Mashing อยู่ประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส
หลังจากเตรียมน้ำพร้อม เราใส่ที่กรองกากก่อนเข้าปั๊ม (perforated screen) ลงไปก่อน และใส่ตะกร้ามอลต์พร้อมที่กรองก้นตะกร้าลงไปในหม้อได้เลย
จากนั้นเราสามารถเท grains ลงไปในตะกร้ามอลต์ได้เลย โดยตะกร้ามอลต์ของรุ่น 35L ออกแบบมาเพื่อรับ grains ได้ถึง 11.5 กิโลกรัม แต่โดยทั่วไปเราจะใช้กันโดยประมาณ 5 กิโลกรัม
ระหว่างการเท grains ลงในตะกร้ามอลต์ เราควรคนเป็นระยะเพื่อไม่ให้ grains จับเป็นก้อน เมื่อเทเสร็จก็ควรจะใช้ไม้พายคนต่ออีก 2-5 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการจับเป็นก้อนหลงเหลือ
หลังจากใส่ grains เสร็จ วางแผ่นกรองด้านบนลงด้านบนของ grains ในตะกร้ามอลต์ จากนั้นเราจะต้องติดตั้ง Recirculation arm เพื่อให้ปั๊มสามารถทำการวนน้ำระหว่างกระบวนการ Mashing
ถ้าเราปรับ heating power ไว้ที่ 100% อุณหภูมิระหว่างการ Mashing จะเกินได้ เราควรปรับลดลงมาที่ระดับ 30-40% เพื่อรักษาความร้อนให้คงที่ระหว่างการ Mashing ระดับความร้อนที่พอดีจะขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณ grains, หม้อใส่ jacket รึเปล่า หรือปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ความร้อนระบายออกไปได้
การประกอบ Recirculation Arm (Recirculation Arm Assembly)
*ข้อควรระวัง เพื่อความปลอดภัย ต้องติดตั้ง Recirculation arm ทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานปั๊ม
การใช้ปั๊มเพื่อให้น้ำไหลเวียนระหว่างการสกัดน้ำตาล (Mashing) ช่วยให้ประสิทธิภาพการสกัดน้ำตาลดีขึ้นอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้ความเข้มข้นสม่ำเสมอ และอุณหภูมิคงที่เท่ากันทั่วถึง
ก่อนการติดตั้ง Recirculation arm ให้เช็คว่าแหวนรองซิลิโคนใส่ไว้ถูกตำแหน่งใน female camlock เรียบร้อยดีรึยัง เพราะถ้าใส่ไว้ไม่ดี หรือไม่ได้ใส่จะทำให้น้ำ wort รั่วขณะปั๊มทำงานได้
การติดตั้ง Recirculation arm เข้ากับหม้อ BrewZilla ทำได้โดยยกก้านข้อต่อ female camlock แล้วเสียบเข้ากับ male camlock จากนั้นโยกก้าน female camlock ไปจุดล็อค
ถ้าต้องการหมุน Recirculation arm เราต้องปิดปั๊มก่อน จากนั้นคลาย camlock เพื่อปรับหมุนตำแหน่งตรง female camlock แล้วติดล็อคเข้าเหมือนเดิมก่อนจะเปิดปั๊ม
*ข้อสำคัญ
ถ้าเรา Mashing โดยไม่ได้ใส่แผ่นกรองด้านบนในตะกร้ามอลต์ ให้ระวัง grains จะถูกดูดกลับเข้าระบบปั๊มในสองกรณี
- ระดับความแรงปั๊มต่ำกว่า 100%
- ขณะปิดการทำงานของปั๊มจะเกิดแรงดูดกลับเล็กน้อย
ให้ยกปลายสายยางซิลิโคนให้สูงจาก grains เพื่อป้องกัน grains ถูกดูดกลับเข้าระบบปัํม
การอ่านค่าอุณหภูมิขณะ Mashing (Mashing Temperature Reading)
RAPT Controller แสดงอุณหภูมิที่ด้านล่างของหม้อ BrewZilla ใกล้กับจุดที่ต่อสาย RAPT Controller เข้ากับตัวหม้อ เราต้องเข้าใจว่าอุณหภูมินี้ไม่ใช่อุณหภูมิที่แกนกลางของ grains ขณะทำการ mashing ถ้ากระบวนการไหลเวียนของ wort ขณะ mashing ทำได้ดี อุณหภูมิของ grains ขณะ mashing ก็จะใกล้เคียงกับค่าที่แสดงบน RAPT Controller ด้วยเหตุนี้ ถ้าเราต้องการให้อุณหภูมิ mashing ของเราถึงค่าที่เราต้องการไวขึ้น เราอาจจะทำด้วยการ set ค่า Target temperature ให้สูงกว่าที่ต้องการประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส แต่ต้องทำควบคู่ไปกับการใช้ที่วัดอุณหภูมิอีกตัววัดค่าอุณหภูมิที่แกนกลางของ grains เพื่อดูว่าถึง Target temperature ที่เราต้องการจริง ๆ รึยัง
รูปดังต่อไปนี้แสดงจุดติดตั้ง Probe (ตัววัดค่าอุณหภูมิ) ซึ่งอยู่ด้านล่างของหม้อ BrewZilla
BrewZilla ใช้อุปกรณ์ทำความร้อนแบบวัตต์ต่ำ Ultra Low Watt Density Elements (ULWD) ช่วยให้ทำเบียร์สีอ่อนได้ และป้องกันไม่ให้เกิดการไหม้ได้ง่าย
10.การล้าง Grains (Sparging)
เมื่อเราสกัดน้ำตาล (Mashing) เสร็จแล้ว ซึ่งอาจจะใช้เวลา 60-90 นาที ต่อไปก็เป็นขั้นตอนการล้างน้ำตาลออกจาก Grains ที่ mashing เสร็จแล้ว ซึ่งในขั้นตอนนี้ใครจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ถ้าไม่ทำ เราก็จะได้ปริมาณน้ำตาลน้อยลง น้ำน้อยลงด้วย
การล้าง grains นั้น เราจะใช้น้ำร้อนเทเบาๆ ลงบนผิวหน้าของ grains ด้านบน (เรียกว่า grain bed) เพื่อล้างน้ำตาลออกให้ได้มากที่สุด โดยไม่สกัด tannins ออกมามากเกินไป
เราจะใช้ที่ยกตะกร้ามอลต์ขึ้นจากหม้อต้ม หมุน 90 องศา แล้ววางตรงจุดสำหรับวางตะกร้ามอลต์
BrewZilla Gen 4 จะมีจุดพักตะกร้ามอลต์ 2 จุด เราสามารถจะยกขึ้นมาเพียงครึ่งเดียว หรือจะยกขึ้นมาสุดเลยก็ได้ ซึ่งการมี 2 จุดช่วยให้ง่ายต่อการจัดการเมื่อตะกร้ามอลต์มีน้ำหนักมาก เราอาจจะยกทีละครึ่งเดียว หรือหากเราทำแบชเล็ก เราอาจจะยกแค่ครึ่งเดียวก็พ้นน้ำ wort ด้านล่างแล้ว เราก็ล้างมอลต์ได้ทันที ไม่ต้องยกขึ้นจนสุด
แนะนำให้ใส่ที่กรองกากมอลต์ด้านบนไว้ตอนที่เราทำการล้างมอลต์ เพราะจะช่วยทำให้น้ำกระจายลงบน ผิวหน้าของ grains (grain bed) ได้ดีกว่า หากเราไม่วางไว้ อาจจะเกิดน้ำไหลเป็นช่องลงไปด้านล่าง ทำให้ประสิทธิภาพการล้างน้ำตาลไม่ดีเท่าที่ควร
เมื่อตะกร้ามอลต์วางบนปากหม้อเรียบร้อยแล้ว เราก็ค่อยๆ เทน้ำร้อน (75-80C) ลงด้านบนแผ่นกรอง เพื่อล้างน้ำตาลที่ติดอยู่กับกากมอลต์ที่เรา mashing เสร็จแล้ว โดยขั้นตอนนี้จะใช้น้ำประมาณ 5-15 ลิตร ขึ้นกับสูตรของเรา และค่าความถ่วงจำเพาะที่เราตั้งเป้าไว้ (target gravity)
น้ำร้อนต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าตอนใกล้ๆ จะ mashing เสร็จนะ
11.การต้ม (Boiling)
เรามาถึงขั้นตอนเกือบสุดท้ายในกระบวนการเตรียม wort แล้ว หลังจากเราสกัดน้ำตาล (Mashing) และทำการล้างมอลต์ (Sparge) จนเสร็จ เราจะเริ่มต้ม wort ให้เดือดซึ่งทำได้ง่ายๆ โดยการเซต heating power เป็น 100% และเซต Target temperature ให้เกิน 100C ซึ่งจะทำให้ระบบทำความร้อนทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา หากเราเซต Target temperature เป็น 100C อาจจะมีบางช่วงที่ระบบทำความร้อนหยุดทำงาน เนื่องจากความร้อนถึงระดับที่เราเซตแล้ว ซึ่งโดยปกติ เราต้องการให้ระบบทำความร้อนทำงานเต็มที่ตลอดขั้นตอนการต้มเดือด
เมื่อต้มจนเดือดแล้ว เราก็ใส่ฮอปตามสูตรที่เราวางไว้ โดยทั่วไปเราจะต้ม wort ประมาณ 60 นาที แต่ก็ไม่มีอะไรตายตัว แล้วแต่สูตรที่ออกแบบหรือ Beer Style ที่เราทำ รวมถึงเป้าค่าความถ่วงจำเพาะ Original Gravity (OG) ของเรา
การอ่านค่าอุณหภูมิขณะต้ม (Boil Temperature Reading)
ที่ระดับน้ำทะเล น้ำเปล่าจะเดือดที่อุณหภูมิ 100C ถ้าอุณหภูมิขณะต้มน้ำเปล่าจนเดือนแสดงเกิน 100C แสดงว่าเราต้อง calibrate ตัววัดอุณหภูมิใหม่
หากอุณหภูมิแสดงต่ำกว่า 100C ขณะที่ wort กำลังเดือด และเราอยู่ที่ระดับน้ำทะเล เราต้องทำการ calibrate ตัววัดอุณหภูมิใหม่เช่นกัน
น้ำเดือดที่อุณหภูมิต่ำกว่า 100C ถ้าเราอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ดังนั้นหาก wort เดือดต่ำกว่า 100C และเราอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ก็อาจจะถูกต้อง ต้องเช็คดูว่ามันแปรผันตรงกันกับการเดือดของน้ำเปล่าหรือไม่
12.ขั้นตอนการลดอุณหภูมิ Wort (Wort Cooling)
BrewZilla Gen 4 มี Immersion Chiller มาในชุด ขนาดท่อ ½” ผลิตจาก Stainless Steel 304 (เกรดอาหาร) นอกจาก Chiller ที่มากับชุด KegLand ยังแนะนำ Counter Flow Chiller ที่ประสิทธิภาพสูงกว่า แต่ใช้งานยากกว่าหน่อย สามารถหาซื้อเพิ่มได้ที่ร้านเรา THAIBREWSHOP
สำหรับ Immersion Chiller ที่มากับชุดหม้อนั้น ใช้งานได้ง่าย ทำความสะอาดง่าย การใช้งานก็แค่ต่อน้ำเย็นเข้า Chiller แล้วจุ่ม Chiller ลงในหม้อ ปล่อยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร้อน น้ำที่รับความร้อนแล้วจะไหลออกจากท่ออีกฝั่ง Immersion Chiller เรียกได้ว่าเป็น Chiller ที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด สะอาด ปลอดภัย ล้างทำความสะอาดง่าย
หากเราต้องการประหยัดน้ำ เราอาจจะใช้ Immersion Chiller ต่อเข้ากับปั๊มของหม้อ BrewZilla แล้วแช่ Chiller ลงในน้ำที่ใส่น้ำแข็ง จากนั้นเปิดปั๊มให้ดูดน้ำ wort ในหม้อวนกลับลงในหม้อ โดยผ่าน Immersion Chiller ที่แช่ในน้ำเย็น วิธีนี้จะทำให้เราประหยัดน้ำได้ แต่การดูด wort เข้า Chiller นั้นทำให้การล้างทำความสะอาด Chiller ทำได้ยาก วุ่นวายกว่า
การต่อน้ำเข้า Chiller นั้นทำได้หลายวิธี วิธีที่ KegLand แนะนำคือใช้ Garden Hose
การเชื่อมต่อ Immersion Chiller กับ Garden Hose
วิธีที่ง่ายที่สุดในการต่อ Garden Hose กับ Immersion Chiller ก็แค่เสียบเข้าไปดื้อๆ เลย แล้วรัดด้วย Clamp แต่เรามีวิธีที่ดีและปลอดภัยกว่า โดยใช้ข้อต่อ Garden Hose ใส่กับ Immersion Chiller ทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง Immersion Chiller และ Garden Hose ทำได้ง่ายมาก
12.7mm compression fittings (KL02004) และ male garden hose fittings (KL09461)
การต่อ Immersion Chiller กับปั๊มของ BrewZilla Gen 4
เราสามารถต่อ Immersion Chiller เข้ากับปั๊มที่มากับ BrewZilla ได้ วิธีการนี้ช่วยประหยัดน้ำได้ดี เราเตรียมน้ำเย็นใส่น้ำแข็งไว้ใน Cooler หม้อ หรือภาชนะต่างๆ ที่สามารถจุ่ม Immersion Chiller ลงไปได้ทั้งอัน จากนั้นเราใช้สายยางซิลิโคนต่อจาก Recirculation arm มาที่ Chiller และฝั่งไหนออกของ Chiller เราต่อสายยางซิลิโคนกลับลงหม้อ
เราอาจใช้ compression fittings KL02004 และ camlock fittings (KL04503, KL04497)
ถ้าเราจะใช้วิธีวน wort เข้า Immersion Chiller แบบที่กล่าวด้านบน เราต้องทำงานวน wort ขณะที่กำลังเดือดก่อนการแช่น้ำเย็น เพื่อทำความสะอาดด้านใน Chiller ก่อนด้วยน้ำ wort ที่กำลังเดือด แนะนำให้วนน้ำเดือดเข้าประมาณ 5 นาที เพื่อให้มั่นใจว่ากำจัด wild yeast และ bacteria ที่อาจอยู่ในท่อจนหมดก่อนการ cool down
เมื่อทำการวนน้ำ wort เดือดเพื่อฆ่าเชื้อเรียบร้อย เราก็เอา Chiller ใส่ในน้ำที่มีน้ำแข็ง จากนั้นเราสามารถปรับ Ball Valve ตรง Recirculation arm เพื่อให้ wort ไหลช้าลง หรือเร็วขึ้น เพื่อควบคุมอุณหภูมิที่ฝั่งขาออกของ Chiller การทำแบบนี้ก็เพื่อปรับให้ได้ wort ที่อุณหภูมิที่เราต้องการ เพื่อที่จะใช้ใส่ใน fermenter และ pitch yeast ต่อไป
13.การทำความสะอาด BrewZilla Gen 4 (Cleaning)
การทำความสะอาดหลังจากต้มเสร็จแล้ว BrewZilla Gen 4 มีก้นทรงกรวย ทำให้น้ำไหลลงได้สะดวกหมดจดผ่านออกทางก๊อก หลังจากน้ำไหลออกหมด เราแนะนำให้คว่ำหม้อ เทเศษต่างๆ ที่หลงเหลือทิ้ง
หลังจากนั้นเติมน้ำเปล่าและ StellaClean หรือ Five Star PBW ลงไปตามสัดส่วนที่แต่ละยี่ห้อแนะนำ ตั้งค่าน้ำร้อนที่ 55C และติดตั้ง Recirculation arm ให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่ม Play เริ่มทำงาน ปล่อยให้น้ำไหลเวียนอยู่ประมาณ 10 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำล้างตรงผนังหม้อที่มีคราบหลงเหลือ ถ้าต้องการล้าง Chiller ด้วยก็ปิดปั๊ม แล้วต่อเข้า Chiller จากนั้นเปิดปั๊มใหม่ ให้น้ำวนผ่าน Chiller ด้วยประมาณ 5 นาที จากนั้นจึงปิดด้วยปุ่ม Pause
เปิดก๊อกทิ้งน้ำที่ผสมน้ำยาล้างออก แล้วเติมน้ำสะอาดลงไปใหม่ ทำแบบเดิม ให้น้ำไหลเวียนในระบบซักครู่ ต่อกับ Chiller ด้วยถ้าต้องการล้าง
เสร็จแล้วเปิดก๊อกปล่อยน้ำทิ้งออกจนหมด แล้วเติม Sanitizer เช่น StellaSan หรือ Five Star Star San โดยผสมในอัตราส่วนตามคำแนะนำของแต่ละยี่ห้อ สารเคมีดังกล่าวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จะช่วยป้องกันไม่ได้เกิดคราบติดผนังหม้อ เปิดปั๊มให้น้ำยาที่ผสมไหลเวียนในระบบด้วย Recirculation arm จากนั้นก็ปล่อยน้ำทิ้ง โดยไม่ต้องล้างออก เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการล้าง พร้อมสำหรับการต้มครั้งต่อไป
การล้างและดูแลรักษาปั๊ม (Pump Cleaning and Maintenance)
โดยทั่วไปเราไม่ต้องทำการแกะล้างปั๊มทุกครั้งหลังใช้งานเครื่อง ใช้แค่เพียงน้ำยาทำความสะอาดอย่าง StellaClean, Five Star PBW และ Sanitizer เช่น StellaSan, Star San ตามคำแนะนำของ KegLand ก็เพียงพอที่จะล้างคราบโปรตีน แร่ธาตุ หรือสิ่งสกปรกที่ติดตามชิ้นส่วนของปั๊มได้แล้ว
อย่างไรก็ดี BrewZilla Gen 4 ออกแบบมาให้เราจัดการปั๊มได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะแกะมาล้าง หรือ by pass ปั๊มก็ทำได้ง่ายๆ แค่หงายก้นหม้อขึ้นมา ในกรณีที่ปั๊มตัน หยุดทำงาน หรือเกิดการผิดปกติ เราสามารถแกะตัวปี๊มออกมาล้างได้
การแกะปั๊มออกมาล้าง เราต้องถอดสายยางทุกเส้นที่ต่อกับปั๊มก่อน แล้วใช้ไขควงขันน็อตที่ยึดปั๊มออก ดึงปั๊มออกมา จากนั้นไขส่วนหัวของปั๊มออก เช็คว่ามีอะไรติด สิ่งสกปกรก ตรงส่วนหัวของปั๊ม จากนั้นถอดใบพัดออก เช็คดูว่ามีอะไรติด หรือชิ้นส่วนใบพัดเสียหายหรือไม่ อย่าลืมส่องดูตรงกล่องครอบใบพัดด้วย
ข้อควรระวัง
ไม่ควรต่อสายน้ำเข้าปั๊ม Inlet หรือ Recirculation arm โดยตรง เพราะแรงดันที่มากเกิน อาจจะทำให้สายยางซิลิโคนฉีกขาด
14.แก้ปัญหาการลงทะเบียนและส่งข้อมูลไปยัง RAPT Cloud (Troubleshooting Registration and Telemetry)
ถ้าเราเจอปัญหาการส่งหรือรับข้อมูลระหว่าง BrewZilla Gen 4 กับ RAPT Portal สิ่งแรกที่ต้องเช็คคือ RAPT Controller ของเราต่อ Wifi Network ของเราอยู่รึยัง นอกจากนี้ยังต้องตรวจดูว่าระดับความแรงสัญญาณ (Signal Strength) ต่ำไปรึเปล่า
วิธีการเช็คระดับความแรงสัญญาณ ให้กดปุ่ม Select แล้วไปที่ Settings จากนั้นไปที่ Diagnostics
ค่าความแรงสัญญาณจะโชว์ที่หน้า Diagnostics รวมถึง SSID ของ Wifi Network ที่ RAPT Controller เชื่อมต่ออยู่
ค่าความแรงสัญญาณจะแสดงตั้งแต่ 0 ถึง -100dbm
การลงทะเบียน RAPT Controller ของเราใหม่อีกครั้ง (Re-register your BrewZilla Controller)
ถ้า RAPT Controller ของเราไม่ส่งข้อมูลไปยัง RAPT Portal หรือเราไม่สามารถคุมเครื่อง BrewZilla Gen 4 ผ่าน RAPT Portal แม้สัญญาณ Wifi ของเราจะอยู่ในระดับที่ดี อาจจะมีปัญหาเรื่องการลงทะเบียน BrewZilla กับ RAPT Portal การลงทะเบียนใหม่ ไม่จำเป็นต้องลบเครื่องออกจาก RAPT Portal ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ที่ RAPT Controller เข้าไปที่ Settings Menu แล้วไปที่ Clear Registration แล้วกดปุ่ม Select เพื่อล้างข้อมูลการลงทะเบียน
- ที่ RAPT Portal (https://app.rapt.io) คลิกที่ปุ่ม edit ตรงเครื่อง BrewZilla ที่ต้องการลงทะเบียนใหม่
- ไปที่แถบ Troubleshooting เลือก Reset Device Authentication
- จะมีช่องให้กรอก Validation Code จาก RAPT Controller ให้กรอกแล้วกดปุ่ม Save เพื่อเสร็จกระบวนการ
RAPT Controller เคยส่งข้อมูลไปที่ RAPT Portal ได้ แต่เกิดปัญหาส่งไม่ได้
อาจเกิดได้หลายสาเหตุ
- เช็คดูว่า BrewZilla ของเราต่อเครือข่าย Wifi ของเราอยู่รึเปล่า
- เช็คความแรงสัญญาณ (Signal Strength)
- เช็คดูการเชื่อมต่อ internet ว่าใช้งานได้หรือไม่
- ดูเรื่องระบบเครือข่าย Wifi และระบบความปลอดภัย
15.การอัพเดท Firmware (Updating Firmware)
ปกติแล้ว RAPT Controller ของ BrewZilla Gen 4 จะอัพเดท Firmware แบบอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่องและเชื่อมต่อกับ Internet
เราสามารถเช็คได้ว่า Firmware ปัจจุบันของ RAPT Controller ที่เราใช้คือ Version ไหน โดยกดปุ่ม Select แล้วเข้าไปที่ Settings จากนั้นไปที่ Diagnostics เพื่อเช็ค Firmware Version ที่เราใช้อยู่
เราสามารถอัพเดท Firmware แบบ Manual ก็ได้ โดยกดปุ่ม Select แล้วไปที่ Settings จากนั้นเลือก Check for OTA Update แล้วกด Select
16.การตั้งค่าตัววัดอุณหภูมิ (Temperature Probe Calibration)
ถ้าเรารู้สึกว่าค่าอุณหภูมิที่เครื่อง BrewZilla แสดงไม่ถูกต้อง เช่น อุณหภูมิขณะเดือดเกิน 100C ที่ระดับน้ำทะเล เราสามารถทำการ Calibrate แบบ 2 จุดอุณหภูมิได้ (2-point calibration)
การ Calibrate แบบ 2 จุด ทำได้โดยกดปุ่ม Select บน RAPT Controller แล้วเข้าสู่ Settings จากนั้นเลือก 2 point calibration จากนั้นใส่น้ำเย็นพร้อมน้ำแข็งลงในหม้อ BrewZilla ใช้ที่วัดอุณหภูมิที่ Calibrate มาอย่างดีแล้ววัดค่าอุณหภูมิน้ำ จากนั้นรอให้ค่าอุณหภูมินิ่ง กรอกค่าที่ได้จากที่วัดอุณหภูมิที่ Calibrate แล้วลงใน RAPT Controller ด้วยการกดปุ่ม ลูกศร ขึ้น-ลง จากนั้นกดปุ่ม Select เพื่อเซตค่า ณ จุดอุณหภูมิที่ 1
หลังจากนั้น RAPT Controller จะให้ทำการ Calibrate จุดอุณหภูมิที่ 2 ต่อ ปล่อยน้ำเย็นทิ้งออกจากหม้อให้หมด แล้วเติมน้ำร้อน หรือน้ำเดือดเข้าไปในหม้อ จากนั้นใช้ที่วัดอุณหภูมิที่ Calibrate มาอย่างดีแล้ววัดอุณหภูมิน้ำในหม้อ รอให้อุณหภูมินิ่ง แล้วกรอกค่าอุณหภูมิที่วัดได้ลงใน RAPT Controller โดยกดปุ่ม ลูกศร ขึ้น-ลง จากนั้นกดปุ่ม Select เพื่อบันทึกค่าอุณหภูมิ ณ Calibration Point ที่ 2
เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการ Calibrate ที่วัดอุณหภูมิของ BrewZilla Gen 4
*ถ้าเราอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล จุดเดือดของน้ำจะต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส ซึ่งเราไม่จำเป็นต้อง Calibrate ให้ใช้จุดเดือดเป็นจุดอ้างอิง
17.การคงอุณหภูมิระหว่าง Mashing และ Boiling ด้วย PID (PID Temperature Control)
PID Temperature Control คือระบบการคุมอุณหภูมิระหว่างการสกัดน้ำตาล และการต้ม โดยนำค่าจาก Probe ที่วัดได้มาเป็นข้อมูลในการควบคุมอุปกรณ์ทำความร้อนอีกที BrewZilla Gen 4 สามารถเซตให้ใช้ PID Temperature Control ได้ ซึ่งมีค่า Default ตามตารางด้านล่างนี้ ซึ่งค่า Default จะออกแบบมาให้คุมอุณหภูมิระหว่างการสกัดน้ำตาล (Mashing) และต้มเดือด (Boiling) สำหรับแบชประมาณ 23 ลิตร
ถ้าเราต้มแบชขนาดที่ต่างจากค่า Default มากๆ หรือทำ wort ที่ค่าความถ่วงจำเพาะสูงมากๆ (Very High Gravity Beer) ซึ่งใช้มอลต์ปริมาณมาก เราอาจจะต้องทำการจูนค่า PID coefficients ใหม่ เพื่อให้การควบคุมอุณหภูมิถูกต้องแม่นยำขึ้น