Terpene กับคราฟท์เบียร์ กลิ่น รส และประสบการณ์ใหม่ในแก้วเบียร์

ในโลกของคราฟท์เบียร์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นและรสชาติ สารประกอบ Terpene ได้กลายมาเป็นตัวแปรสำคัญที่ผู้ผลิตเบียร์ให้ความสนใจมากขึ้น Terpene คือสารประกอบธรรมชาติที่ทำหน้าที่สร้างกลิ่นและรสซับซ้อนในฮ็อป ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของการทำเบียร์ การเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก Terpene จะช่วยให้ Brewer สร้างสรรค์เครื่องดื่มได้ตรงตามที่ตั้งใจมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้การควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ในแต่ละแบชเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม

Terpene คือสารประกอบอินทรีย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพืชหลายชนิด รวมถึงดอกไม้ ผลไม้ และโดยเฉพาะ “ฮ็อป” (Hop) ที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำเบียร์ เทอร์ปีนเป็นตัวการสำคัญที่สร้างกลิ่นและรสชาติหอมเฉพาะตัว เช่น กลิ่นซิตรัส สน หรือแม้แต่กลิ่นหอมหวานแบบผลไม้เมืองร้อน (Tropical fruits)

ในโลกของ คราฟท์เบียร์ การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก Terpene กำลังกลายเป็นกระแสนิยมที่น่าตื่นเต้น เพราะช่วยให้เบียร์มีมิติใหม่ที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น

Terpene คืออะไร?

Terpene (เทอร์ปีน) เป็นโมเลกุลที่เกิดจากการรวมตัวกันของไอโซพรีน (isoprene units) และมีบทบาทสำคัญในธรรมชาติ เช่น ช่วยล่อแมลงผสมเกสร หรือปกป้องพืชจากศัตรูพืช สำหรับเบียร์แล้ว Terpene หลัก ๆ ที่พบในฮ็อป ได้แก่:

• Myrcene: กลิ่นหญ้า สน และกลิ่นผลไม้เขียว
• Limonene: กลิ่นมะนาวและซิตรัสสดชื่น
• Caryophyllene: กลิ่นเผ็ดแบบพริกไทยดำ
• Linalool: กลิ่นดอกไม้หวาน ๆ
• Humulene: กลิ่นไม้ป่าและดิน

แต่ละชนิดมีผลต่อโปรไฟล์กลิ่นและรสชาติของเบียร์แตกต่างกันไป และยังมีผลต่อการรับรู้รสสัมผัสในปากอีกด้วย

Terpene ในกระบวนการทำคราฟท์เบียร์

เบียร์สายคราฟท์ในปัจจุบัน ไม่ได้หยุดแค่การเลือกสายพันธุ์ฮ็อปเท่านั้น แต่ยังมีการเน้นเทคนิคเพื่อรักษาและดึงกลิ่น Terpene ออกมาให้ได้มากที่สุด เช่น:

• Dry hopping: การใส่ฮ็อปหลังหมักเพื่อดึงกลิ่นออกมาโดยไม่ทำให้ Terpene ระเหยไปกับความร้อน
• Hop bursting: การใส่ฮ็อปปริมาณมากในช่วงปลายของการต้ม เพื่อเน้นกลิ่นหอม
• การใช้น้ำมันฮ็อป (Hop oil): ซึ่งเป็นสารสกัด Terpene เข้มข้น เพียงไม่กี่หยดก็เปลี่ยนกลิ่นเบียร์ได้ชัดเจน

นอกจากนี้ โรงเบียร์บางโรงยังมีการทดลองใส่ Terpene จากพืชอื่น เช่น กัญชา (ซึ่งมี Terpene สูงเหมือนกัน) เพื่อสร้างรสชาติแปลกใหม่

ทำไม Terpene ถึงสำคัญกับเบียร์?

1. สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว: กลิ่นหอมที่โดดเด่นทำให้เบียร์แต่ละแบรนด์มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
2. เสริมประสบการณ์ดื่ม: การมีมิติกลิ่นและรสที่ซับซ้อนทำให้การดื่มเบียร์เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
3. ตอบรับเทรนด์ใหม่: ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการเบียร์ที่มีคาแรกเตอร์ชัด และ Terpene คือคำตอบหนึ่งที่ผู้ผลิตใช้ดึงดูดใจ

Terpene Hop Oil ก้าวต่อไปของนวัตกรรมกลิ่นและรสในคราฟท์เบียร์

เมื่อพูดถึงการนำ Terpene มาใช้ยกระดับกลิ่นและรสชาติของเบียร์ หนึ่งในบริษัทที่น่าจับตามอง ก็คือ Abstrax Hops ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสกัด Terpene สำหรับอุตสาหกรรมเบียร์และกัญชา

Abstrax Hops ใช้เทคโนโลยีการสกัดขั้นสูง เพื่อรักษากลิ่นหอมและรสชาติตามธรรมชาติของฮ็อปเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบที่เหมาะกับผู้ผลิตเบียร์ที่ต้องการควบคุมกลิ่นและรสชาติเบียร์ได้อย่างแม่นยำ เช่น:

1. Quantum Series

ผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ที่สกัดเฉพาะ Terpene ธรรมชาติจากฮ็อป โดยตรง โดยไม่มีการเติมสารสังเคราะห์หรือกลิ่นปรุงแต่งเพิ่มเติม ทำให้ได้กลิ่นหอมสดชัดของสายพันธุ์ฮ็อปที่ต้องการ เช่น กลิ่นซิตรัสของ Citra หรือกลิ่นสนดิบของ Simcoe
ข้อดี: ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้เบียร์โดยไม่เพิ่มความขม และสามารถใช้ได้ในกระบวนการผลิตที่หลากหลาย ตั้งแต่การ dry hop ยันการแต่งกลิ่นปลายทาง

2. Omni Hop Profile

Abstrax Hops ยังมีการวิเคราะห์และสร้าง โปรไฟล์ Terpene จำลองจากฮ็อปสายพันธุ์ดัง ๆ ทั่วโลก เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถสร้างกลิ่นของสายพันธุ์หายาก หรือคุมมาตรฐานกลิ่นได้แม่นยำแม้แต่ในปีที่ฮ็อปมีคุณภาพไม่คงที่

ตัวอย่าง: ถ้าคุณต้องการกลิ่น Galaxy ของออสเตรเลียในเบียร์ แต่หาฮ็อปสดไม่ได้ คุณสามารถใช้ Native Galaxy Profile เพื่อสร้างกลิ่นเดียวกันได้อย่างแม่นยำ

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Terpene ไม่เพียงช่วยเสริมกลิ่นรสให้เบียร์น่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตได้สร้าง ประสบการณ์ใหม่ ให้กับผู้ดื่มในแต่ละแก้วได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเข้าใจ Terpene และเลือกใช้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์คราฟท์เบียร์ในแบบที่คุณต้องการ

ตัวอย่างของเบียร์และโรงเบียร์ชื่อดังที่ได้นำ Terpene มาใช้ในการสร้างสรรค์เบียร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

1. Breakside Brewery – Dime Bag

Breakside Brewery จากพอร์ตแลนด์ ได้นำเสนอเบียร์สไตล์ West Coast IPA ชื่อ Dime Bag ที่ใช้ Terpene จาก Abstrax Hops เพื่อเสริมกลิ่นหอมที่โดดเด่นและรสชาติที่ซับซ้อน ทำให้เบียร์นี้มีความ “dank” ที่เป็นเอกลักษณ์

2. Highland Park Brewery – เบียร์ที่ใช้ BrewGas Series

Highland Park Brewery เป็นหนึ่งในโรงเบียร์ที่ได้นำผลิตภัณฑ์ BrewGas Series จาก Abstrax Hops มาใช้ในการผลิตเบียร์ โดย BrewGas Series เป็นสารสกัด Terpene ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติที่คล้ายกับกัญชา แต่ไม่มี THC ทำให้เบียร์มีความหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

3. Humble Sea Brewing Company – เบียร์ที่ใช้ BrewGas Series

Humble Sea Brewing Company ก็เป็นอีกโรงเบียร์ที่ได้นำ BrewGas Series จาก Abstrax Hops มาใช้ในการสร้างสรรค์เบียร์ที่มีโปรไฟล์กลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นและแตกต่าง

การนำ Terpene มาใช้ในเบียร์เหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังช่วยให้โรงเบียร์สามารถควบคุมโปรไฟล์ของเบียร์ได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การใช้ Terpene ยังเปิดโอกาสให้โรงเบียร์สามารถสร้างสรรค์เบียร์ที่มีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดื่มเบียร์

สนใจผลิตภัณฑ์ Terpene Hop Oil ดูสินค้าได้ที่นี่

For more information: Abstrax Hops